หลายคนที่ทำ SEO สิ่งที่สำคัญอันดับแรกเคยที่นึกๆ กันคือการทำลิงก์ใช่ไหมครับ สำหรับคนที่ทำ SEO มานานคงจะทราบว่า Google จัดว่าเป็นระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นระยะ ด้วยเหตุผลหลักคือเพื่อทันเกมส์เหล่าคนทำ SEO นั่นแหละ ไม่ว่าจะหมวกดำ หมวกขาว มันมีกลยุทธ์หลายอย่างซึ่ง Google ไม่ชอบด้วยเหตุผลข้อเดียวคือ มันไม่ธรรมชาติ
ในการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึ่มครั้งล่าสุด ผมจำไม่ได้ล่ะว่าชื่อ penguin หรือ panda แต่สิ่งนี้ผมว่ายังไม่น่ากังวลเท่า เปลี่ยนไปแล้วเราต้องปรับตัวยังไง จริงๆ เราแทบไม่ต้องปรับตัวตามกระแสอะไร ขอเพียงแต่เราอิงสิ่งที่เรียกว่า Webmaster Guidelines ซึ่ง Google เป็นคนกำหนดเอง (อารมณ์ประมาณถ้าไม่เชื่อสิ่งนี้ แล้วจะเชื่ออะไรแทนได้อีกล่ะ) แต่วันนี้เราจะพูดถึงแค่เรื่องลิงก์อย่างเดียว ส่วนที่เหลือไว้วันหลังถ้าผมไม่ลืม
ในการสร้างลิงก์เข้า มันเป็นกลยุทธ์พื้นฐานของคนทำ SEO เลย ไม่ว่าจะแขวนลิงก์ โพสลงบอร์ด ไปแขวนตามเว็บประกาศ ซื้อลิงก์ บลาๆ แล้วสิ่งพวกนี้ อันไหนยังทำได้ อันไหนยังทำไม่ได้ล่ะ ผมเลยไปอ่าน Link schemes ซึ่งพูดถึงการทำลิงก์ที่ไม่ถูกต้อง พูดง่ายๆ คือ Google ไม่ปลื้มนั่นแหละ (ในกรณีเลวร้อยสุดคือ index หายได้เลย)
ผมได้แปลมาสั้นๆ บางส่วน ให้อ่านง่ายๆ เนื้อๆ เพราะรู้ว่าคนไทยขี้เกียจอ่านหนังสือ
Google ได้พูดถึงการทำลิงก์บนหน้าเว็บว่าลิงก์ทุกลิงก์บนหน้าเว็บเรา (ซึ่งก็คือลิงก์ขาออก) กับลิงก์ทุกลิงก์ที่เข้าหาเว็บเรา (ลิงก์ขาเข้า) ทุกลิงก์มีผลกับเว็บเราทั้งหมด และสามารถส่งผลเสียได้ด้วย
สิ่งที่ถูกห้ามทำและถือว่าเป็นการปั่นลิงก์ (Link schemes) มีดังนี้
- การซื้อหรือขายลิงก์ โดยแลกเป็นเงินสด สิ่งของ หรือบริการต่างๆ โดยมีเป้าหมายคือการส่งผ่าน PageRank
- การแลกเปลี่ยนลิงก์ระหว่างเว็บ (เธอลิงก์ฉัน แล้วฉันจะลิงก์กลับ)
- ลิงก์ไปยังเว็บที่มีลักษณะสแปมหรือเว็บที่ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้อง
- สร้างหน้าพาร์ทเนอร์ (พวกหน้าเว็บภายในกลุ่ม ในองค์กร) โดยมีเป้าหมายเพื่อทำลิงก์แบบไขว้กันเอง
- ใช้โปรแกรมอัตโนมัติหรือบริการเพื่อสร้างลิงก์เข้าหาเว็บ
Google ได้ยกตัวอย่างลิงก์ที่เข้าข่ายพวกนี้ไว้ เช่น
- ลิงก์ข้อความที่มีเป้าหมายเพื่อส่ง PageRank โดยเฉพาะ
- ลิงก์จากบทความที่มีการใส่เน้นไปที่คีย์เวิร์ดสำคัญๆ ไว้เฉพาะ เช่น
most people sleep at night. you can buy cheap blankets at shops. a blanket keeps you warm at night. you can also buy a wholesale heater. It produces more warmth and you can just turn it off in summer when you are going on france vacation. - ลิงก์จากเว็บไดเรกทอรี่หรือเว็บบุคมาร์ค (ผู้เขียน: พวกเว็บ Top sites) พวกเว็บที่มีคุณภาพต่ำ
- ลิงก์ที่เกิดจาก widgets ที่มีไว้เพื่อให้เว็บอื่นไปติด เช่น
Visitors to this page: 1,472
car insurance
(ผู้เขียน: ผมว่าพวกเว็บฝากรูปฝากไฟล์บางที่ ทำแบบนี้เยอะมาก) - การแปะลิงก์ที่ท้ายเว็บ (Footer) ไว้หลายๆ เว็บกระจายกันไป
- การแปะลิงก์บนข้อความที่เราโพสในเว็บบอร์ดหรือลายเซ็นในเว็บบอร์ดด้วยลิงก์ที่มีการปรับแต่งแล้ว เช่น
Thanks, that’s great info!
– Paul
paul’s pizza san diego pizza best pizza san diego
Google ได้มีแนบบันทึกไว้ว่าการโฆษณาผ่าน PPC นั้นไม่นับ เพราะลิงก์ที่เกิดเป็นลิงก์ระบบและไม่มีการส่งผ่าน PageRank ได้ จึงไม่เป็นไร
วิธีป้องกันลิงก์เสียๆ ขาออกของเราล่ะ (รวมถึงป้องกันการรั่ว Pagerank และความซวยจากเราที่กลายเป็นแหล่งลิงก์ขยะซะเอง)
- เพิ่ม rel=”nofollow” ที่แท็ก <a>
- ทำการรีไดเร็กลิงก์ไปหน้ากลางที่มีการบล็อก Search Engine ด้วย robot.txt
Google ได้บอกแนบท้ายว่า
ทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้เว็บอื่นนั้นทำลิงก์มาหาคุณ คือคุณต้องสร้างเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์ สิ่งที่จะได้รับความนิยมในอินเตอร์เน็ตได้มากขึ้น ยิ่งคุณมีของดีมากเท่าไร มันเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะเจอคุณได้มากขึ้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจอะไรสักอย่าง ลองถามตัวเองว่า มันจะเกิดประโยชน์อะไรกับพวกเขาไหมถ้าพวกเขาได้ดูเว็บของคุณ
มันไม่ใช่แค่จำนวนลิงก์ที่มากเพียงอย่างเดียว แต่มันยังอยู่ที่คุณภาพและความสัมพันธ์ของลิงก์ด้วยที่จะมีผลกับเว็บของคุณ การสร้างเนื้อหาที่ดีจะตอบแทนคุณ ลิงก์ที่ถูกแนะนำโดยคนเขียนข่าวและชาวบล็อกเกอร์จะเป็นแหล่งสำคัญที่ทำให้เว็บคุณดูน่าสนใจ
และถ้าคุณเห็นเว็บที่เข้าข่ายทำการปั่นลิงก์เพื่อหวัง PageRank แจ้งให้เรารู้ พวกเราจะใช้ข้อมูลของคุณปรับปรุงอัลกอริทึ่มการตรวจสอบลิงก์เหล่านั้นเอง
บทความนี้แปลจากการอัพเดตของวันนี้ 10/2/2012 หวังว่าที่ผมพิมพ์และแปลไปเยอะแยะจะจุดประกายอะไรบ้างอย่างให้กับคนที่ได้อ่านนะครับ!
ปล. การที่เว็บจะมี rel=”nofollow” เยอะๆ ไม่เกิดผลเสียกับเว็บเรานะครับ คลิกเพื่ออ่านการสนทนาเรื่องนี้
ขอบคุณครับ