ขอบคุณนโยบายยิ่งลักษณ์กับปีหน้าที่ยุ่งเหยิง

อันนี้ผมขอบ่นหน่อย หวังว่าจะไม่มีใครมาบ่นเรื่องการเมืองนะ เพราะนี้คือบล็อกส่วนตัว (หวังว่าตรงนี้จะยังเป็นพื้นที่ของผมอยู่)

พอดีวันนี้ได้ยินข่าวปวดหัวเรื่องหนึ่งมา ท้าวความก่อนว่าผมอาศัยอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร โรงงานผมก็เรียบร้อยโดนไปแล้ว 300 ขอบ่นแบบหนักๆ ว่าเหี้ยเอ้ย ความจริงคืองานก็น้อยลง ของผมมันเกี่ยวกับเกษตร แล้วน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา สิ่งที่รัฐบาลทำหลังจากน้ำลดคือ ไม่ได้ให้ความมั่นใจหรือข้อมูลที่เชื่อถือได้เลยว่าสถานการณ์น้ำจริงๆ คืออะไร ช่วงแรกชาวสวนชะลอการปลูก ผมก็ขายปุ๋ยไม่ออก พอถัดมาชาวสวนเพิ่งรู้ตัวว่ามันเป็นแค่ข่าวลือๆ กันว่าจะท่วมอีกรอบ แต่ก็หมดหน้าปลูกไปแล้ว สรุปผมแม่งขายปุ๋ยได้น้อยลง…

กลับมา ต้นทุนคงที่ๆ มันงอกคือค่าแรง 300 บาท ไม่มีงานก็ยังต้องจ่าย ไม่จ่ายนายจ้างก็ซวย ใช่เลยคนงานไม่ได้บังคับ แต่ถ้าไม่จ่ายก็จะพากันลาออก นี้คือความจริงของโรงงาน SME ที่รัฐบาลไม่เห็นหัว

แล้วปีหน้านี้… คือยังไม่ทันข้ามปีเลยเรื่องก็มา โรงงานแถวบ้านคนงานจะพากันลาออกยกโขยง เพราะบอกกลับบ้านไปทำงานที่นั้นก็ได้ 300 บาท นี้คือความเชื่อผิดๆ ที่โดนรัฐบาลฝังหัวพอๆ กับนโยบายรถ 100,000 ต้องขอบคุณโครงการนี้ ญาติผมที่ทำเซียงกงคงได้อะไหล่เยอะเลย ก่อนรถถูกไฟแนนยึดเจ้าของรถมักเอาอะไหล่ปลอมมาเปลี่ยนใส่ แล้วเอาอะไหล่แท้ไปขายกับเซียงกง 555+

คือโครงการ 100,000 เนี่ย มันทำให้คนซื้อรถโดยไม่คิดถึงวินัยทางการเงินอย่างที่ควรเป็น แล้วมันก็จบที่ความชิบหาย ต่อให้ตัวเองไม่ชิบหายคนค้ำก็อยากผูกคอตาย ผมยังจำคำหนึ่งจากรายการของคมชัดลึกมั้ง เห็นเขาว่า

“คุณมีเงินเดือน 20,000 รถผ่อนเดือนล่ะ 8,000 แล้วคุณคิดว่าผ่อนไหว อันนี้คุณคิดผิด จริงๆ คุณต้องคิดว่าตลอดมาที่คุณมีเงินเดือน 20,000 จริงๆ คุณมีเหลือเก็บเท่าไร แล้วพอจ่ายค่าผ่อนเดือนละ 8,000 ไหวไหม”

คนก็เลยเป็นหนี้บานตะไท สุดท้ายผ่อนไม่ไหวโดนยึด จบที่ปีหน้านี้รอดูได้เลย รถมือสองทะลักตลาด

กลับเข้าเรื่อง คือคนงานเขาจะกลับบ้านเพราะคิดว่ากลับไปบ้านก็ได้ 300 บาท แถมค่ากินอยู่ก็ถูกลง ส่วนในความเป็นจริงคือ “ฝันไปหรือเปล่า” ผมจะพูดถึงข้อเท็จจริงเป็นรายการ แล้วลองไปคิดกันดู

  • การกลับไปบ้านเกิด ไม่ได้มีคนคิดคนเดียวนิครับ ด้วยบรรดาสื่อที่รัฐบาลใช้ชูผลนโยบาลเพื่อบอกประชาชนว่า “กูทำให้แล้วนะ (ความหน้าเลือกกูได้อีกก็ดี อาจเป็นวันละ 500 บาท)” ผลคือคนรู้กันทั่ว แรงงานก็เกิดการทะลัก … งานนี้ผมว่าจุดคอหอยเลยล่ะ เพราะตำแหน่งงานมันมีเท่าเดิม เผลอๆ จะลดลงเพราะ… เหตุผลอยู่ข้อถัดไปและถัดไป
  • หลายคนลืมเหตุผลแรกที่เข้ามาทำงานในตัวเมือง “แถวบ้านโรงงานไม่เยอะ” อันนี้แหละครับ คำว่าดงโรงงานมันไม่ได้ตั้งมั่วๆ นะ มันคือแถวนี้โรงงานเยอะ ถ้าแถวบ้านโรงงานเยอะแล้วจะกระเสือกกระสนมาทำที่นี้ทำไม แล้วตอนนี้คือจะกลับไปบ้าน?
  • ผมอยู่สมุทรสาครโดน 300 ผมก็กระทบนะ อัพต่อหัวราวๆ 60 บาทมั้ง แล้วหลายคนกลับไปจังหวัดตัวเอง บางที่อัพ 120 เลยก็มี… เจ้าของโรงงานที่นั้นจะจ่ายไหวหรือเปล่า คิดบ้างไหม?
  • ต่ออีกนิด จากการที่โดน 300 ก่อน บรรดาข้าวของแถวนี้ราคาก็ขึ้นครับ ก็มีคนเงินจะจ่ายนิ แถมขนาดลูกน้องร้านแล่ปลายังได้ 300 เลย เพราะ 1.ไม่จ่ายก็โดนฟ้อง (นายจ้างโดนขู่) 2.ออกไปทำโรงงานได้ 300 (ขู่จะออกอีก) แล้วราคาปลาก็แพงขึ้น กระทรวงพาณิชย์อย่าโม้นะครับว่าคุมราคาสินค้าได้ อย่าโม้…

จากที่ว่ามา ปีหน้านี้ทั้งประเทศ ทุกโรงงานระบบสายพานการผลิตจะเละเป็นโจ๊ก โรงงานแถวบ้านที่ผมว่าโดนนี้…. ต้องจ่ายหัวละ 10,000 เพื่อให้พนักงานอยู่ต่อ คงเพราะมีการทำสัญญางานไว้แล้ว ถ้าผิดนัดก็จะโดนปรับ ของผมโรงงานเล็กกว่าไม่เคยทำสัญญาอะไรพวกนี้ ดูแล้วจะซวยน้อยกว่า แต่ก็ยังซวยเพราะไม่รู้คนงานผมจะเกิดคึกอะไรอีก

ด้วยความเคารพ… ต่อไปจ้างพม่าแทนครับ เพราะพม่าเดี๋ยวนี้คุยไทยได้ ใครคุยได้จับตั้งเป็นหัวหน้า ที่เหลือคุยไม่ได้ช่างมัน แล้วจ้างพวกนี้เขายังสำนึกตำแหน่งงานที่ทำ หน้าที่ความรับผิดชอบมากกว่าคนไทยซะอีก เอะอะกลับบ้าน เอะอะออก บ้านอยู่ประเทศเดียวกันก็ง่องแงง พม่าบ้านไกลจะกลับก็คิดหนัก 55+

โทษที โรงงานผมเคยมีคนลาออกไปทำงานต่างประเทศแล้ว ก่อนไปพูดซะดิบดีเงินดีกว่า ผมก็บอกไปดีละกัน คือถ้าคุณตี value คุณไว้สูง คุณต้องการจากผมเกินที่คุณร้องขอ แล้วผมให้ไม่ได้ คุณจะไปที่อื่นผมก็ถือว่าคุณไปดีละกัน เรื่องนี้ก็คล้ายกับกรณี 300 นี้แหละ แต่มันจะเป็นทั้งโรงงาน ถ้าเป็นจริงๆ (ซึ่งก็คงไม่นาน) ผมก็ต้องซวยบ้างแหละ ทีนี้ขอพูดต่อเรื่องคนงานผมที่ได้ไปต่างประเทศ หลังจากทำงานได้สองเดือน แม่ผมได้โทรศัพท์จากญาติๆ เขา บอกว่าอยากกลับมาทำงาน เพราะที่นั้นใช้งานหนักกว่า ทำไม่ได้พักเลย ซึ่งมันก็แน่นอน “ไม่มีใครให้เงินคุณเพิ่มโดยไม่เอาอะไรเพิ่มหรอก” อ่อนต่อโลกเนอะ ทีนี้เลยอยากกลับมาทำงานด้วย… ผมก็บอกไปว่าเราลากันด้วยดีแล้ว คุณออกไปผมจะรอคุณเหรอ ผมก็หาคนใหม่สิ อาจจะปั้นยากหน่อย แต่อยู่ตัวก็ทำงานกับเราไปเป็นปี ส่วนคุณ… ไม่รักงานตรงนี้เราเลิกคุยกันดีกว่า

เอาเป็นว่าใครคิดจะกลับไปบ้านหางาน ก็จำไว้อย่าง นายจ้างเขาเจ็บแล้วจำครับ คุณกลับไปหางานไม่ได้ จะกลับมาทำงานด้วย “ฝันไปเถอะว่าเขาจะกลับมาจ้างคุณ” จริงๆ คือตำแหน่งงานที่ว่างเขาไม่ปล่อยไว้นานครับ

สุดท้ายคุณยิ่งลักษณ์ ในฐานะเจ้าของธุรกิจ SME คุณทำกับพวกเราได้เจ็บปวดครับ ไม่มากแต่มันลึก

The Day The Earth Stopped Masturbating

เมื่อการช่วยเหลือตัวเองคือสิ่งผิดกฎหมาย ทุกคนจึงต้องเลือกระหว่าง..  “ชัก” หรือ “ตาย”

หนังจินตนาการ(บรรเจิด)เมื่อโลกเข้าสู่หายนะ การช่วยเหลือตัวเอง 1 ครั้งจะทำให้ผู้ชายคนอื่นบนโลก 1 คนต้องตาย โลกจึงตกอยู่ภายใต้กฎที่ว่า ถ้าช่วยตัวเองเท่ากับตาย หนังฟอร์มยักษ์ที่ยังไม่มีกำหนดฉาย (ถ้ามีกระทรวงวัฒนธรรมคงห้ามฉายแน่ๆ)

/ee

ทำระบบล็อกอินแบบโครตง่ายบน Laravel

วันนี้อัพบล็อกสักหน่อย กลัวร้าง  /XD วันนี้ผมจะพูดถึงระบบล็อกอิน ซึ่งเป็นระบบที่ต้องเขียนกันมันทุกงานอยู่แล้ว ที่จะเขียนวันนี้เป็นระบบโครตง่ายแต่สบายสุดๆ ก่อนอื่นผมไม่เอ่ยพื้นอะไรมากมาย เริ่มกันเลย

1. สิ่งที่คุณต้องมีคือฐานข้อมูลตาราง users กับโมเดลตามมาตรฐาน Eloquent เลย คือ มีฟิลด์ id, username หรือ email (จะมีทั้งคู่ก็ได้) และ password เรื่องการสร้างโมเดลหาอ่านได้ที่เว็บ Laravel เลยครับ ตั้งค่าการติดต่อฐานข้อมูลให้เสร็จด้วยนะครับ

2.กำหนด route.php ตามนี้เลย

Route::any('/user/login', 'user@login');

3. สร้าง controller ชื่อ user.php แล้วก็ตามนี้เลย

<?php

class User_Controller extends Base_Controller {

	public $restful = true;

	public function __construct() {
		parent::__construct();
	}

	public function get_login()
	{
		return View::make('user.login')->with('error', Session::get('error'));
	}

	public function post_login()
	{
		$userinfo = array(
			'username'    => strtolower(Input::get('email')),
			'password'     => Input::get('password'),
			'remember'    => Input::get('remember')
		);

		if ( Auth::attempt($userinfo) )
		{
			return Redirect::home();
		}
		else
		{
			return Redirect::to('user/login')
				 ->with('error', 'อีเมล์หรือรหัสผ่านไม่ถูกต้อง')
				->with_input();
		}
	}

}

4. สร้าง view user/login.blade.php

<div class="span8 offset2 well">
	<h2>เข้าสู่ระบบ</h2>
	<hr />
	{{ Form::open(URL::current()) }}

	@if (!empty($error))
		<div class="alert alert-error">{{ $error }} </div>
	@endif

	<div class="control-group">
		{{ Form::label( 'email', 'อีเมล์', array( 'class' => 'control-label')) }}
		<div class="controls">
			<div class="input-prepend"><span class="add-on"><i class="icon-envelope"></i></span>
				{{ Form::text( 'email', Input::old( 'email')) }}
			</div>
		</div>
	</div>

	<div class="control-group">
		{{ Form::label( 'password', 'รหัสผ่าน', array( 'class' => 'control-label')) }}
		<div class="controls">
			<div class="input-prepend"><span class="add-on"><i class="icon-lock"></i></span>
				{{ Form::password( 'password') }}
			</div>
		</div>
	</div>

	<div class="control-group">
		<div class="controls">
			<label class="checkbox">
				{{ Form::checkbox( 'remember', '', Input::old('remember')) }} จดจำการล็อกอิน
			</label>
		</div>
	</div>

	<div class="controls">
		{{ Form::submit( 'เข้าสู่ระบบ', array( 'class' => 'btn btn-success' ) ) }}
	</div>

	{{ Form::close() }}
</div>

ถ้าผมพิมพ์ไม่ผิด ตามนี้จะได้ระบบล็อกอินเสร็จสรรพ มีระบบจดจำล็อกอินด้วย ที่เหลือก็ไปดูๆ กันเองนะครับ ว่าอะไรเป็นอะไร 555+

ปล. ถ้าหน้าตาออกมาแปลกๆ ให้ลง bundle bootstrapper นะครับ เพราะผมใช้ตัวนี้อยู่ครับ
ปล2. จริงๆ สามารถเขียน controller ให้สั้นกว่านี้ได้อีก แต่แบบข้างบนนี้จะคุมการใช้งานได้ดีกว่าหน่อยครับ